ข่าวแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ

VGI โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/59 ทำรายได้ 712 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังรับรู้รายได้จากการเข้าควบรวมธุรกิจ MACO และการเข้าเพิ่มสัดส่วนการลงทุนธุรกิจสื่อโฆษณาสนามบินใน แอโร มีเดีย แถมได้รับปัจจัยบวกจากการขยายตัวของเม็ดเงินสื่อโฆษณานอกบ้านเติบโต หนุนรายได้ธุรกิจสื่อโฆษณาบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสและอาคารสำนักงานขยายตัวได้ดี ด้านผู้บริหาร VGI มั่นใจแนวโน้มด้านผลการดำเนินงานขยายตัวได้ต่อเนื่อง จากยุทธศาสตร์การต่อจิ๊กซอว์ซื้อกิจการสื่อโฆษณานอกบ้าน และ Rabbit จากกลุ่ม BTS หนุนศักยภาพการดำเนินธุรกิจ ดันความสามารถผลิตสื่อโฆษณาพุ่งเป็น 7.3 พันล้านบาท แถมคว้าสิทธิสัมปทานทำสื่อโฆษณาบนสถานีและขบวนรถไฟฟ้าในมาเลเซีย ดันปีนี้เติบโต 40-50%

นายสุรเชษฐ์ บำรุงสุข กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วีจีไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ศูนย์กลางสื่อโฆษณาภายใต้ฐานข้อมูลแบบครบวงจรเพื่อตอบสนองความต้องการใช้สื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Data Centric Media Hypermarket) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ของปี 2559/60 (1 กรกฎาคม – 30 กันยายน) ว่า บริษัทฯ มีรายได้ 712 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ที่มีรายได้ 531 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิจากการดำเนินงานในไตรมาส 2 ของปี 2559/60 อยู่ที่ 209 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% เทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2558/19 ที่มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 193 ล้านบาท

ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ของปี 2559/60 ได้ส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2559/60 มีรายได้ 1,262 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ 1,086 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 525 ล้านบาท ซึ่งปัจจัยความสำเร็จมาจากการรับรู้รายได้จากการขยายฐานสื่อโฆษณากลางแจ้งที่ VGI ได้เข้าไปลงทุนใน MACO เพิ่มเป็น 33.88% รวมถึงการเพิ่มสัดส่วนการเข้าถือครองหุ้นในบริษัทแอโร มีเดีย จำกัด เป็น 28% จากเดิมอยู่ที่ 20% ส่งผลดีต่อการรับรู้รายได้จากการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันธุรกิจสื่อโฆษณาบนสถานีและรถไฟฟ้าบีทีเอส รวมถึงสื่อโฆษณาในอาคารสำนักงานที่ยังมีการเติบโตที่ดี จากแผนงานการขยายสื่อโฆษณาไปยังอาคารใหม่ๆ เพิ่มเป็น 146 ตึก จากเดิมอยู่ที่ 118 ตึก ณ สิ้นไตรมาส 2 ของปี 2558/59 ทำให้ VGI สามารถเก็บเกี่ยวเม็ดเงินโฆษณานอกบ้านที่มีการใช้จ่ายงบโฆษณาเพิ่มขึ้น

กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ VGI กล่าวว่า สำหรับแผนงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2559/60 เชื่อมั่นว่า บริษัทฯ จะผลักดันภาพรวมผลประกอบการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ VGI ได้เดินหน้ายุทธศาสตร์การต่อจิ๊กซอว์ทางธุรกิจด้วยการเข้าซื้อหุ้น 90% ในบางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเต็ม (BSS) และ บีเอสเอส โฮลดิ้ง (BSSH) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการธุรกิจ e-wallet ผ่านการให้บริการ Rabbit Line play รวมถึง Rabbit Card ที่ VGI สามารถนำข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้ามาใช้ในการวิเคราะห์และวางแผนใช้สื่อโฆษณาเพื่อโฟกัสไปยังกลุ่มผู้รับสื่อได้ตรงกลุ่มเป้าหมายและสามารถวัดผลการใช้สื่อโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้เข้ามาช่วยเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจของ VGI ให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางสื่อโฆษณาภายใต้ฐานข้อมูลแบบครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการใช้สื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Data Centric Media Hypermarket) และเป็นหนึ่งในฐานขยายผู้รับชมสื่อโฆษณาเพิ่มขึ้นเป็น 25 ล้านคนต่อวันและเพิ่มกำลังการผลิตสื่อโฆษณาจากเดิม 3,900 ล้านบาท เป็น 7,300 ล้านบาท

ทั้งนี้ VGI ยังได้รับประโยชน์จากการที่ MACO ได้ลงทุนขยายเครือข่ายสื่อโฆษณานอกบ้าน หลังจากเข้าลงทุน 70% ในบริษัท Multi Sign ผู้เชี่ยวชาญการบริหารสื่อกลางแจ้งทั่วประเทศจำนวน 862 ป้าย ซึ่งจะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าของ VGI จากเดิมที่เจาะกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงในกรุงเทพฯ กระจายไปยังตลาดที่ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่มในต่างจังหวัด และโอกาสสร้างรายได้จากป้ายนิ่งที่ปรับเปลี่ยนเป็นสื่อโฆษณาดิจิทัลเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจอีกด้วย

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังประสบความสำเร็จในการรุกขยายตลาดไปยังประเทศมาเลเซีย หลังร่วมทุนพันธมิตรท้องถิ่นคว้าสิทธิทำสื่อโฆษณาบนรถไฟฟ้าทั้งบนสถานีและขบวนรถไฟฟ้าสาย SBK ซึ่งเป็นระบบขนส่งทางรางขนาดใหญ่ ระยะทาง 51 กิโลเมตร 31 สถานี มีขบวนรถไฟฟ้า 58 ขบวน ที่จะเปิดให้บริการเดินรถเฟสแรกภายในสิ้นปีนี้และจะเปิดอย่างทางการเต็มระบบในกลางปี 2560 ที่คาดว่าจะมีผู้โดยสารกว่า 4 แสนคนต่อวันอีกด้วย

“ด้วยแผนงานของเราในปีนี้ เป็นการสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้แก่ VGI จากขีดความสามารถการแข่งขันที่แข็งแกร่งเพื่อรองรับการเติบโตของสื่อโฆษณานอกบ้านและช่วยผลักดันผลการดำเนินงานในปีนี้ให้เติบโตประมาณ 40-50% ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้” นายสุรเชษฐ์ กล่าว