เหตุผลที่ต้องลงทุนใน VGI

เหตุผลที่ต้องลงทุนใน VGI

1. ธุรกิจที่แตกต่าง

VGI ขยายธุรกิจจากสื่อโฆษณาแบบดั้งเดิม ที่มีสื่อโฆษณานอกบ้านแบบออฟไลน์เป็นหลัก เข้าสู่โลกแห่งธุรกิจออนไลน์ เราสามารถวางรากฐานได้สำเร็จและก้าวขึ้นเป็นผู้นำการตลาดแบบครบวงจร (Offline-to-Online Marketing Solutions) ซึ่ง รวมแพลตฟอร์มออฟไลน์และออนไลน์ที่มีในมือไว้ด้วยกัน โดยใช้การเชื่อมโยงกับข้อมูลจากแรบบิท ทำให้ VGI สามารถปรับกลยุทธ์ทางการขาย นำเสนอตัวเองเป็นทุกทางออกของการสื่อสารที่ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ และวัดผลได้

2. แพลตฟอร์มที่หลากหลาย

VGI มีแพลตฟอร์มที่หลากหลาย อาทิ สื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชน สื่อโฆษณากลางแจ้ง สื่อโฆษณาบนท้องถนน สื่อโฆษณาในอาคาร และสื่อโฆษณาในสนามบิน ทำให้เรามีกำลังการผลิตสื่อในมือมากกว่า 12,000 ล้านบาท นอกจากนี้ VGI มีบริษัทลูกอย่าง Rabbit Group ผู้นำด้านธุรกิจดิจิทัล ซึ่งป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทชั้นนำที่อยู่ในอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิเช่น ระบบขนส่งมวลชน ระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ เครือข่ายโทรคมนาคม โลจิสติกส์ และแอปพลิเคชันการสื่อสารยอดนิยม ด้วยองค์ประกอบที่สมบูรณ์เหล่านี้ทำให้ Rabbit Group ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้บริโภคได้มากกว่า 18 ล้านคน ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจสื่อโฆษณาของ VGI มอบโซลูชั่นส์ให้แก่แบรนด์ได้เป็นอย่างดี

3. ผู้นำตลาด

จากการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจของ VGI ทำให้ปัจจุบัน VGI เป็นผู้นำในตลาดสื่อโฆษณานอกบ้านของไทยด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 70% ทั้งนี้จุดแข็งของ VGI คือการได้รับสัญญาสัปทานระยะยาวถึง 30 ปี ในธุรกิจสื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชน จากบริษัทแม่คือ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ "BTS" ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ธุรกิจหลักในย่านใจกลางกรุงเทพฯ VGI ยังจะได้รับผลประโยชน์จากการเติบโตในอนาคตจากการเพิ่มเส้นทางการเดินรถของ BTS ที่เป็นผู้พัฒนาหลักของระบบคมนาคมด้วยรถไฟฟ้าในประเทศไทย ทำให้เราคาดการณ์ว่ากำลังการผลิตสื่อโฆษณาในรถไฟฟ้านี้จะขยายเพิ่มขึ้นอีก 5 - 6 เท่า ภายในปี 2565/66 นอกจากนี้เรายังมี Rabbit Group ผู้นำให้บริการระบบการชำระเงินในบริเวณทั่วกรุงเทพฯ

4. บริษัทสื่อโฆษณาที่ใหญ่และมีผลกำไรมากที่สุด

VGI คือบริษัทสื่อโฆษณานอกบ้านเบอร์ 1 ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงที่สุดในบริษัทสื่อโฆษณาจดทะเบียน โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2563 คิดเป็นเงิน 68,459 ล้านบาท (หรือ 2,152 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) นอกจากนี้เรายังเป็นบริษัทสื่อโฆษณานอกบ้านที่สามารถสร้างกำไรได้มากที่สุดในประเทศไทยและติดอันดับ 1 ใน 5 บริษัทสื่อโฆษณานอกบ้านที่มีกำไรมากที่สุดในเอเชีย โดยในปี 2562/63 สร้างยอดขายได้ถึง 4,000 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิสูงถึง 35.6% ด้วยพอร์ทโฟลิโอธุรกิจที่มีเอกลักษณ์และโดดเด่น ทำให้บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า VGI จะมีผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต และสามารถจ่ายเงินปันผลด้วยนโยบายการปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิของบริษัทฯ ให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างแน่นอน

กลยุทธ์

จากการที่ VGI ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงการดำเนินธุรกิจสู่การเป็นผู้ให้บริการ Offline-to-Online (O2O) โซลูชั่นส์บนอีโคซิสเต็มที่สมบูรณ์ ผ่านแพลตฟอร์มธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจบริการชำระเงิน และธุรกิจโลจิสติกส์ ทำให้เราสามารถนำเสนอแคมเปญด้านสื่อโฆษณาและการตลาดที่ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลของกลุ่มบริษัทฯ เพื่อมอบโซลูชั่นส์ได้ในทุกๆ จุดการเดินทางของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

คุณค่าขององค์กร

เราเชื่อมั่นในการสร้างคุณค่าแบบยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหุ้น คู่ค้าและสังคม ซึ่งถือเป็นหลักการพื้นฐานที่เรายึดถือในการดำเนินงานมาโดยตลอด

การเติบโตทางธุรกิจ

เรามีจุดม่งหมายในการเป็นผู้นำธุรกิจในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูงสุด และพร้อมเป็นพันธมิตรกับผู้นำธุรกิจจากทั่วโลกที่ช่วยส่งเสริมธุรกิจหลัก ที่เรามีอยู่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือหลักสำคัญที่ทำให้เราเติบโตอย่างแตกต่างตลอดมา

การสร้างนวัตกรรม

เราให้ความสำคัญกับดิจิตอล เทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา เพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศในการพัฒนา ผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นส์ที่เข้ากับทุกเจเนอเรชั่น ให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาได้อย่างดีที่สุด

ภาพรวมและเป้าหมายผลการดำเนินงาน

แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจในประเทศไทยได้มีการหดตัวอย่างรุนแรงในช่วงปีที่ผ่านมาจนเกือบเทียบเท่ากับความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากวิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2540 อย่างไรก็ตามในปี 2564 ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดว่าผลผลิตมวลรวมประชาชาติ (GDP) จะขยายตัวที่ 3.0% โดยได้รับแรงสนับสนุนด้านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของของภาครัฐ รวมถึงแผนการกระจายวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ตลอดทั้งปีนี้ ขณะที่สถานการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มที่ดีขึ้น VGI ตั้งเป้าหมายรายได้รวมอยู่ที่ 3,500 – 4,000 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ในช่วง 15 – 25%

อย่างไรก็ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 รอบใหม่ที่เริ่มขึ้นอีกครั้งในเดือนเมษายน 2564 นี้ บริษัทฯ จะยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงสร้างเสถียรภาพทางการเงินและเพิ่มสภาพคล่องของบริษัทฯ เพื่อสามารถดำเนินการในเชิงรุกที่จำเป็นสำหรับการรับมือกับความท้าทายที่จะเกิดขึ้น โดยเราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า VGI จะสามารถมอบประโยชน์สูงสุดผ่านผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งให้แก่ผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน เมื่อสถานการณ์กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง