ไตรมาส 2 VGI แกร่ง รายได้ พุ่ง 10% สวนกระแสอุตสาหกรรมโฆษณาติดลบ กำไรสุทธิ 259 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิเทียบยอดขายสูงถึง 48%
VGI ผู้นำธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 58/59 (ก.ค.-ก.ย.58) ที่เติบโตสวนทางอุตฯติดลบ โดยภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาช่วง เดือน ก.ค.-ก.ย. ยังไม่ฟื้นตัว หลังลูกค้าหลายรายยังคงชะลอการใช้จ่ายงบโฆษณาเพื่อรอดูสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงรอดูผลของงบประมาณภาครัฐบาลที่อัดฉีดลงไปในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ส่งผลให้การใช้จ่ายงบฯโฆษณาในช่วง ก.ค.-ก.ย. ยังคงติดลบ 0.3% คาดอุตสาหกรรมโฆษณาโค้งสุดท้ายปลายปีฟื้นตัวได้ดีขึ้น หลังภาครัฐดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายระลอก
นางศุภรานันท์ ตันวิรัช ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) (VGI) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2 ปี 58/59 สื่อโฆษณาหลักของ VGI ได้แก่ ธุรกิจสื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชนบีทีเอสและสื่อในลิฟท์อาคารสำนักงาน ยังคงรักษาระดับการเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยในไตรมาส 2 ของ VGI มีรายได้โดยรวม 537 ล้านบาท เติบโต 10% จากปีก่อน มีกำไรสุทธิ 259 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อน (ไม่รวมฐานรายได้และกำไรจากธุรกิจสื่อโฆษณาในห้างสรรพสินค้าซึ่งสัญญาสิ้นสุดลงแล้ว) โดยไตรมาส 2 นี้ บริษัทฯ รับรู้รายการพิเศษหลายรายการรวมเป็นกำไรพิเศษสุทธิ(หลังหักภาษี) จำนวน 46 ล้านบาท ซึ่งกำไรพิเศษดังกล่าว มาจากผลกำไรจากการขายกิจการในต่างประเทศเป็นหลัก
'VGI มีรายได้จากพื้นที่สื่อโฆษณาและพื้นที่ร้านค้าให้เช่าบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสเพิ่มขึ้น 7% อันเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นของลูกค้าที่ยังคงไว้วางใจในประสิทธิภาพการเข้าถึงของสื่อโฆษณาบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสและแคมเปญส่งเสริมการขายของ VGI ประกอบกับยังมีรายได้จากพื้นที่สื่อโฆษณาและร้านค้าบนสถานีส่วนต่อขยายของบีทีเอสที่เพิ่มขึ้นอีก 7 สถานี (อ่อนนุช-แบริ่ง, ตากสิน-วงเวียนใหญ่) นอกจากนั้น สื่อโฆษณาในลิฟท์อาคารสำนักงานมีรายได้ไตรมาส 2 เติบโตสูงถึง 28% จากปีก่อน เป็นผลจากการเร่งขยายเครือข่ายสื่อในลิฟท์อาคารสำนักงานอย่างก้าวกระโดด ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยสำคัญของธุรกิจที่ผลักดันให้ VGI ยังคงรักษาอัตราการเติบโตของรายได้โฆษณาได้ดีกว่าอุตสาหกรรมโฆษณาโดยรวมและด้วยโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแรง มีต้นทุนดำเนินงานที่ต่ำมาก สามารถสร้างผลกำไรต่อยอดขาย หรือ Margin of Safety ที่แข็งแกร่งถึง 48% จึงมีภูมิต้านทานต่อสภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ดีกว่าผู้ประกอบการรายอื่นในอุตสาหกรรมโฆษณา และเชื่อว่าอุตสาหกรรมโฆษณาผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาสนี้' นางศุภรานันท์ กล่าว
นางศุภรานันท์กล่าวต่อไปว่า รายได้และผลกำไรของ VGI ยังคงเติบโตท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาที่เกิดการเพิ่มช่องทีวีดิจิทัลจำนวนมากมาย ซึ่งนำไปสู่การกระจายฐานผู้ชมทีวีไปในแต่ละช่องรวมถึงการเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ ที่ใช้เวลาอยู่นอกบ้านมากขึ้นล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้ลูกค้าหันมาใช้สื่อโฆษณาบนรถไฟฟ้าและสื่อโฆษณาในอาคารสำนักงานเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มช่องทางการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในการส่งข่าวสารจากเจ้าของสินค้าถึงผู้บริโภค
ด้านนายมารุต อรรถไกวัลวที กรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ VGI กล่าวว่า แนวโน้มในไตรมาส 3 (ต.ค.-ธ.ค.) ตามงบฯ การเงินของ VGI ปี 58/59 จะเป็นช่วงไฮซีซั่นประกอบกับจากมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐที่ทยอยออกมาหลายแนวทาง เช่น มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ในเรื่องลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนอง โดยให้ธนาคารพาณิชย์มีมาตรการผ่อนคลายเงื่อนไขเงินกู้ ซึ่งจะผลักดันการเติบโตของภาคก่อสร้างและธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องกันช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นและจะยังส่งผลต่อเนื่องให้มีการใช้จ่ายงบโฆษณาในช่วงปลายปีที่เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ จากที่กล่าวมาทำให้เชื่อว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานของ VGI ในช่วงเวลาดังกล่าวจะทำให้ VGI ยังรักษาการเติบโตได้ตามเป้าหมาย 10% ที่ตั้งไว้ในปีนี้ ล่าสุด VGI สามารถขยายจำนวนสื่อในลิฟท์อาคารสำนักงานได้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 113 อาคาร โดยสามารถติดตั้งสื่อในลิฟท์อาคารสำนักงานต่างๆ ได้ครบ 118 อาคาร (1,052 จอ) แล้วและได้ตั้งเป้าหมายที่จะเร่งขยายเครือข่ายสื่อในอาคารให้เพิ่มขึ้นเป็น 130 อาคารให้ได้ภายในสิ้นปี 2558 นี้ โดยปัจจุบัน VGI เป็นผู้ประกอบการสื่อนอกบ้านที่มีเครือข่ายสื่อในลิฟท์อาคารจำนวนมากที่สุดในประเทศไทย
นายมารุต กล่าวต่อว่า VGI ยังมีแผนขยายธุรกิจตัวแทนขายสื่อโฆษณาทั่วประเทศไทยร่วมกับพันธมิตรผู้ร่วมทุน บริษัท ไมดาส โกลบอล มีเดีย จำกัด ซึ่งเป็นผู้ลงทุนจัดหาพื้นที่และติดตั้งสื่อ LED ขนาดใหญ่ (Midas Clock Tower) ของที่ติดตั้งอยู่ย่านชุมชนหนาแน่นตามหัวเมืองใหญ่เฟสแรก 15 จังหวัด โดยจะชูจุดเด่นที่ลูกค้าสามารถทำ Localized Marketing หรือ การทำการตลาดเจาะจงเฉพาะคนในพื้นที่ ซึ่งสามารถเลือกใช้ภาษาท้องถิ่นเพื่อสื่อสารข้อมูลข่าวสารโปรโมชั่นสินค้า โดยเจาะจงเฉพาะกลุ่มเป้าหมายในท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ลูกค้าจะสามารถเข้าถึงการ monitoring ได้อย่างสะดวกรวดเร็วผ่านระบบ CCTV application เพื่อเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าในการติดตามและตรวจสอบการมองเห็นสปอตโฆษณาได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งตอบโจทย์การโฆษณายุคดิจิตอลได้เป็นอย่างดีหลังจากเปิดตัวไม่นาน กระแสการตอบรับของลูกค้าดีมาก
'ช่วงไตรมาส 4 ของปีปฏิทิน คาดว่าสถานการณ์เศรษฐกิจน่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวกลับเข้าสู่ภาวะปกติและเนื่องจากเป็นช่วง high season ผู้บริโภคก็จะกลับมาจับจ่ายใช้สอยตามเทศกาลต่างๆ เพิ่มมากขึ้น จึงเป็นช่วงเวลาที่เจ้าของสินค้าหรือเอเยนซี่โฆษณามักจะใช้งบประมาณซื้อสื่อโฆษณาเพิ่มขึ้นกว่าฤดูกาลอื่น' นายมารุต กล่าว